นายใหญ่กิเลนผยองชี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯควรเรียกสโมสรสมาชิกประชุมกันมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ
วิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ระบุว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ควรเรียกสโมสรสมาชิกมาประชุมกันมากกว่านี้ เกี่ยวกับการตัดสินใจในแง่ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยการประชุมครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 ในวาระที่มีการเลื่อนไทยลีกออกไป จากผลกระทบไวรัสโควิด-19
กิเลนผยอง เป็น 1 ใน 3 ทีมร่วมกับ การท่าเรือ เอฟซี และ ทรู แบงค็อกฯ ที่ออกมาแถลงคัดค้านสมาคมฯ ว่าไม่เห็นด้วยที่มีการยกเลิกใช้ VAR เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยทางด้าน วิลักษณ์ โหลทอง กล่าวว่า
“ผมวิลักษณ์ โหลทอง มาในนามของสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ประเด็นหลักๆที่เราขึ้นมาบนเวทีในตอนนี้มีหลายประเด็นมากว่า VAR ที่เป็นส่วนหนึ่งของประเด็นในวันนี้”
“เรื่อง VAR ทางสมาคมเป็นคนนำเสนอให้สโมสรทำจดหมายชี้แจงเรื่องการว่าจะใช้กันหรือเปล่า ซึ่งต้องขอย้ำนะครับไม่ใช่สโมสรเป็นคนเรียกร้อง แต่ทางสมาคมเป็นคนยื่นเงื่อนไขให้กับทางสโมสรเอง”
“VAR เรื่องกรรมการ ผลการแข่งขัน เมืองทอง ได้ประท้วงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว 5 ครั้งชนะการประท้วงที่จริงมากกว่า 5 ครั้ง และ ในหลายๆครั้งที่เราชนะมันก็ไม่มีผลต่อการแข่งขันที่จบไปแล้ว ดังนั้นการที่มี VAR ผมว่ามันชัดเจน มันสามารถช่วยวงการฟุตบอลพัฒนาต่อไปได้”
“ประเด็นอื่นๆที่มีการบริหารงานของสมาคมที่อยากจะเน้นย้ำว่าให้สมาคมคุยกับสโมสรสมาชิกมากขึ้น ที่ผ่านมาหรืออย่างของปีนี้ทางเราได้คุยกับสมาคมเรื่องการแข่งขันอย่างที่คุณแป้งบอกมาว่าอยากจะให้จบในสิ้นปีนี้ ถ้าไม่จบในปีนี้มันจะมีปัญหาทั้ง ทรู สัญญาณลิขสิทธิ์ แต่อย่างไรก็ตามตอนนั้นอยู่ในช่วงโควิด-19”
“แต่ในกรณีของ เจลีก ญี่ปุ่น เขาก็มีการประชุมแบบนี่เหมือนกันแข่งนัดเดียวแล้วหยุดไปจากนั้นเขาก็เรียกสโมสรสมาชิกคุยบ่อยมากว่าจะเอายังไง จนเขากลับมาแข่งขันได้ในต้นเดือน 7 (กรกฎาคม) และจะจบให้ทันภายในสิ้นปีนี้”
“จริงๆมีจดหมายมาก่อนหน้านี้ที่สมาคมส่งจดหมายว่าจะเข้าร่วมแข่งขันไหม ถ้าเข้าก็ให้ระบุใส่ลงไป แต่ผมคิดว่าหลายสโมสรก็อยากให้จบภายในสิ้นปีนี้ แต่พอเรายื่นไปทุกคนก็เงียบ จนสมาคมคุยกับทรู กับทุกสโมสรว่าจะเริ่มแข่งขันในวันที่ 12 กันยายน และจบการแข่งขันในปีหน้า”
“ซึ่งมันก็คล้ายกับตอนช่วงลดทีมจาก 18 เหลือ 16 ทีมหลายสโมสรก็ยื่นจดหมายไปว่าไม่เห็นด้วยกับการลดจำนวนทีมเรื่องนี้มีแบบฟอร์มแต่ก็กลับหายเงียบไป”
“ผมว่าทางสมาคมควรจะเรียกสโมสรมาพูดคุยเรื่องไอเดีย แชร์ข้อมูล ทุกดิวิชั่น แล้วตอนนี้ผมได้ยินว่าทีมในไทยลีก 3 พักทีมไปกว่า 10 สโมสรมีหลายทีมที่ประสบปัญหาค่อนข้างเยอะ หลักๆก็คือทุกเสียงของสโมสรมีความหมาย”
“สมาคมกับสโมสรต้องทำงานเป็นทีมเดียวกันมีประเด็นอะไรมาคุยกัน มาออกไอเดียกัน และครั้งสุดท้ายที่เราได้คุยกับสมาคมในการออกเสียงพักลีกคือ วันที่ 14 เมษายน จนตอนนี้ลีกจะเริ่มเตะกันแล้ว มีแต่คำประกาศออกมาจากการประชุมของสมาคม”
“ทั้งเรื่อง VAR ที่บอกว่าไม่มี , มีแต่สโมสรต้องจ่ายเองหรือ มีแต่ใช้เฉพาะนัดสำคัญแล้วกลับมาอีกครั้งเดี๋ยวมีให้ใช้อีก ซึ่งทุกอย่างที่พวกเขาคุยกัน ไม่ได้มาถามสโมสรเลย มีแต่ทางสมาคมคุยกันและตัดสินเอง ก็อยากบอกเลยว่าเราเป็นหนึ่งในสโมสรสมาชิกเหมือนกัน”
“ผมว่ามีหลายคนก็รู้สึกเหมือนกับสามสโมสรที่ออกมาแถลงในวันนี้ ว่าทำไมไม่มีการพูดคุยกันเหมือนกับทีมลีกอื่นในหลายดิวิชั่นที่เขามีการประชุมทีมและโหวตกันไม่ใช่ประชุมกันเองแล้วมาประกาศ อย่างที่คุณแป้งพูดไปว่าเมื่อวานในช่วง 4-5 โมงเย็นบอกอีกอย่างหนึ่งช่วงเช้าในวันนี้บอกอีกอย่างหนึ่ง แล้วจะเปลี่ยนอีกตอนไหนไม่รู้ ไม่เคยคุยกับสโมสร”
“เราอยากให้วงการฟุตบอลไทยพัฒนาเติบโตเพราะนี่คือกีฬาเบอร์หนึ่งของประเทศไทย เรื่องงบประมาณที่สมาคมได้ที่ผ่านมาวันนี้ไม่มีประเด็นเรื่องเกี่ยวกับโควิด-19 ทางสมาคมน่าจะมีงบที่สามารถพัฒนาได้ยิ่งขึ้น ถ้าเป็นจริงอยากที่เป็นข่าวก่อนการเลือกตั้งที่สมาคมได้เงินมา 2,000 ล้าน หรือ 1,500 ล้าน อีก 8 ปีคนที่เซ็นไป ผมคิดว่าในยุคต่อไปก็น่าจะมีเงินมากกว่าเดิมสามารถทำเป้าหมายได้เจริญก้าวหน้า” นายใหญ่เมืองทอง ปิดท้าย
สำหรับ โตโยต้า ไทยลีก 2020 จะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งในวันที่ 12 กันยายนนี้ และ ยึดอันดับตารางคะแนนในช่วงเลกแรก เพื่อหา 4 ทีม ไปลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า
ท่านสามารถอ่านข่าวสารต่อได้ที่ relieflans.com
เว็บพนันออนไลน์ที่ร่วมสนุกได้ตลอด 24 ชม. UFABET369